พื้นที่ชุ่มน้ำที่อยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ นั้นถ้าบอกชื่อไปหลายๆ คนรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอนคือ ดอนหอยหลอด หนึ่งในสัญญาพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ประเทศไทยได้ประการเข้าร่วมเป็นแห่งที่ 3 เป็นสถานที่พิเศษแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ชุ่มน้ำที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้นั้นจะไม่มีลักษณะเป็นตะกอนซึ่งต่างกับดอนหอยหลอด หากถึงเวลาน้ำลงจะพบกับโคลนและในนั้นเองจะเจอกับหอยหลอดอาศัยอยู่
ทำให้เกิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวมาต้องลองหาหอยหลอดกันแทบทุกคน สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้ลองหาวันนี้จะอธิบายขั้นตอนทีละอย่างให้ได้ทราบกัน เมื่อไปถึงแล้วเช่าไม้กระดานจากชาวบ้านพร้อมปูขาวและไม่เล็กๆ จากนั้นก็ลุยหากันได้เลย โดยที่อยู่บนไม่กระดานแล้วไถตัวไปตามโคลน หากเจอจุดที่สงสัยให้นำไม่ไปจิ้มกับปูขาวแล้วแทงลงไปในรูถ้ามีหอยหลอดอยู่ก็หนีปูขาวขึ้นมาให้ได้จับกัน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรทำเมื่อไปหาหอยหลอดนั้นคือ การที่นำปูขาวเทลงไปเลยเพราะว่าจะทำให้หอยหลอดตัวเล็กที่ยังไม่สามารถเก็บได้ตายไปด้วยรวมถึงหอยหลอดตัวอื่นๆ บริเวณใกล้เคียง ถ้าใครจะไปหาหอยหลอดแนะนำว่าไปช่วง เดือนมีนาคม – พฤษภาคม จะเป็นช่วงที่จะพบหอยหลอดได้มากอีกทั้งยังสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่
นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย เช่นนกชายฝั่ง นกทะเล เหยี่ยว นอกจากหอยหลอดแล้วยังมีหอยแครง หอยเสียบ หอยปากเป็ด หอยกะพง และยังเป็นป่าชายเลนอีกด้วย พื้นที่ของดอนหอยหลอดนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีส่วนในการช่วยกรองตะกอนก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล ฉะนั้นจึงมีสภาพอย่างที่เห็นสำหรับนักท่องเที่ยวสามารถที่จะซื้อของฝากได้มากมาย แต่สิ่งหนึ่งหากได้ไปเที่ยวแล้วช่วยกันรักษาความสะอาดในพื้นที่ดอนหอยหลอดไม่อย่างนั้นแล้วสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาศัยอยู่จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากรวมถึงผืนป่าชายเลน ขยะนับเป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งที่สร้างผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงรายได้จากนักท่องเที่ยวไม่อย่างนั้นแล้วดอนหอยหลอดหนึ่งในสัญญาพื้นที่ชุ่มน้ำจะไม่มีอีกต่อไปในอนาคต
ดอนหอยหลอดต้องคอยต่อสู้และแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมมาโดยตลอด ที่โรงงานอุตสาหกรรมทำการปล่อยน้ำเสีย บุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ทำร้านอาหารรุกล้ำพื้นที่ทะเล การทิ้งขยะอย่างที่กล่าวไปแล้ว การหาหอยหลอดที่ผิดวิธีและอื่นๆ อีกมากมาย คนละไม้คนละมือเพื่อวันข้างหน้าของดอนหอยหลอดกันนะครับ